You are on page 1of 6

มาตรา 156 ผู้ใดมีความจำานงจะขอยกเวูนค่าธรรมเนี ยมศาลใหูย่ ืน

คำารูองต่อศาลพรูอมกับคำาฟู อง คำาฟู องอุทธรณ์ คำาฟู องฎีกา คำารูองสอด หรือ


คำาใหูการ แลูวแต่กรณี แต่ถูาบุคคลนั้ นตกเป็ นผู้ไม่สามารถเสียค่าธรรมเนี ยม
ศาล ในภายหลัง จะยื่นคำารูองในเวลาใด ๆ ก็ไดู
การยื่นคำารูองตามวรรคหนึ่ ง ผู้รูองอาจเสนอพยานหลักฐานไปพรูอม
คำารูอง และหากศาลเห็นสมควรไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็ใหูดำาเนิ น
การไต่สวนโดยเร็ว ทั้งนี้ ศาลจะมีคำาสัง่ ใหูงดการดำาเนิ นกระบวนพิจารณาคดี
นั้ นไวูท้ ังหมดหรือแต่บางส่วน เป็ นการชัว่ คราว จนกว่าการพิจารณาสัง่
คำารูองขอยกเวูนค่าธรรมเนี ยมศาลจะถึงที่สุดก็ไดูตามที่ ศาลเห็นสมควร

มาตรา 156/1 เมื่อศาลพิจารณาคำารูองขอยกเวูนค่าธรรมเนี ยมศาล


เสร็จแลูวใหูศาลมีคำาสัง่ โดยเร็ว โดยศาลจะมีคำาสัง่ อนุ ญาตทั้งหมดหรือแต่
เฉพาะบางส่วน หรือยกคำารูองนั้ นก็ไดู
หูามมิใหูศาลอนุ ญาตตามคำารูองเช่นว่านั้ น เวูนแต่จะเป็ นที่เชื่อไดูว่าผู้
รูองไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนี ยมศาล หรือหากผูร้ ูองไม่ไดูรบ

ยกเวูนค่าธรรมเนี ยม ศาลจะไดูรบ
ั ความเดือดรูอนเกินสมควร เมื่อพิจารณา
ถึงสถานะของผู้รูอง และในกรณี ผรู้ ูองเป็ นโจทก์หรือผู้อุทธรณ์หรือฎีกา การ
ฟู องรูองหรืออุทธรณ์หรือฎีกานั้ น มีเหตุผลอันสมควรดูวย
เมื่อค่้ความคนใดไดูรบ
ั ยกเวูนค่าธรรมเนี ยมศาลในการฟู องหรือต่อสู้
คดีในศาลชั้นตูน แลูวยื่นคำารูองเช่นว่านั้ นในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา แลูวแต่
กรณี อีก ใหูถือว่าค่้ความนั้ นยังคงไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนี ยมศาล
หรือหากไม่ไดูรบ
ั ยกเวูนค่าธรรมเนี ยมศาลแลูว จะไดูรบ
ั ความเดือดรูอนเกิน
สมควรอย่้ เวูนแต่จะปรากฏต่อศาลเป็ นอย่างอื่น
ในกรณี ท่ีศาลมีคำาสัง่ อนุ ญาตใหูยกเวูนค่าธรรมเนี ยมศาลใหูแต่เฉพาะ
บางส่วน หรือมีคำาสัง่ ใหูยกคำารูอง ผู้ขออาจอุทธรณ์คำาสัง่ นั้ นต่อศาลไดูภายใน
กำาหนดเจ็ดวันนั บแต่วันมีคำาสัง่ คำาสัง่ อุทธรณ์ถือเป็ นที่สุด
มาตรา 179 โจทก์หรือจำาเลยจะแกูไขขูอหา ขูอต่อสู้ ขูออูางหรือขูอ
เถียง อันกล่าวไวูในคำาฟู องหรือคำาใหูการที่เสนอต่อศาลแต่แรก ก็ไดู
การแกูไขนั้ น โดยเฉพาะอาจเป็ นการแกูไขในขูอต่อไปนี้
(1) เพิ่ม หรือลด จำานวนทุนทรัพย์ หรือราคาทรัพย์สินที่พิพาท ใน
ฟู องเดิม หรือ
(2) สละขูอหาในฟู องเดิมเสียบางขูอ หรือเพิ่มเติมฟู องเดิมใหู
บริบร้ ณ์โดยวิธีเสนอคำาฟู องเพิ่มเติม หรือเสนอคำาฟู องเพื่อคูุมครอง สิทธิของ
ตนในระหว่างการพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำาพิพากษา หรือคำาสัง่ หรือ
(3) ยกขูอต่อสู้ข้ ึนใหม่เป็ นขูอแกูขูอหาเดิมหรือที่ย่ ืนภายหลัง หรือ
เปลี่ยนแปลงแกูไขขูออูางหรือขูอเถียงเพื่อสนั บสนุ นขูอหาหรือ เพื่อหักลูาง
ขูอหาของค่้ความอีกฝ่ ายหนึ่ ง
แต่หูามมิใหูค่้ความฝ่ ายใดเสนอคำาฟู องใดต่อศาล ไม่ว่าโดยวิธี ฟู อง
เพิ่มเติมหรือฟู องแยูง ภายหลังที่ไดูย่ ืนคำาฟู องเดิมต่อศาลแลูว เวูนแต่
คำาฟู องเดิมและคำาฟู องภายหลังนี้ จะเกี่ยวขูองกันพอที่จะ รวมการพิจารณา
และชี้ขาดตัดสินเขูาดูวยกันไดู

มาตรา 180 การแกูไขคำาฟู องหรือคำาใหูการที่ค่้ความเสนอต่อ ศาลไวู


แลูว ใหูทำาเป็ นคำารูองยื่นต่อศาลก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อน วันสืบพยาน
ไม่นูอยกว่าเจ็ดวัน ในกรณี ท่ีไม่มีการชี้สองสถาน เวูนแต่ มีเหตุอันสมควรที่
ไม่อาจยื่นคำารูองไดูก่อนนั้ น หรือเป็ นการขอแกูไขในเรื่องที่เกี่ยวกับความ
สงบเรียบรูอยของประชาชนหรือเป็ น การ แกูไขขูอผิดพลาดเล็กนูอย หรือ
ขูอผิดหลงเล็กนูอย
มาตรา 182 เมื่อไดูย่ ืนคำาฟู อง คำาใหูการ และคำาใหูการแกูฟูองแยูง
ถูาหากมีแลูว ใหูศาลทำาการชี้สองสถานโดยแจูงกำาหนดวันชี้สองสถาน ใหูค่้
ความทราบล่วงหนูาไม่นูอยกว่าสิบหูาวัน เวูนแต่ในกรณี ดังต่อไปนี้
(1) จำาเลยคนใดคนหนึ่ งขาดนั ดยื่นคำาใหูการ
(2) คำาใหูการของจำาเลย เป็ นการยอมรับโดยชัดแจูงตามคำาฟู อง โจทก์
ทั้งสิ้น
(3) คำาใหูการของจำาเลยเป็ นคำาใหูการปฏิเสธขูออูางของโจทก์ ทั้งสิ้น
โดยไม่มีเหตุแห่งการปฏิเสธ ซึ่งศาลเห็นว่าไม่จำาเป็ นตูองมีการ ชี้สองสถาน
(4) ศาลเห็นสมควรวินิจฉัยชี้ขาดคดีใหูเสร็จไปทั้งเรื่องโดยไม่ตูอง สืบ
พยาน
(5) คดีมโนสาเร่ตาม มาตรา 189 หรือคดีไม่มีขูอยุ่งยากตาม มาตรา
196
(6) คดีท่ีศาลเห็นว่ามีประเด็นขูอพิพาทไม่ยุ่งยากหรือไม่จำาเป็ น ที่จะ
ตูองชี้สองสถาน
ในกรณี ท่ีไม่ตูองมีการชี้สองสถาน ใหูศาลมีคำาสัง่ งดการชี้สองสถาน และ
กำาหนดวันสืบพยาน ถูาหากมี แลูวใหูส่งคำาสัง่ ดังกล่าวใหูค่้ความทราบตาม
มาตรา 184 เวูนแต่ค่้ความฝ่ ายใดจะไดูทราบหรือถือว่า ไดูทราบคำาสัง่ ดัง
กล่าวแลูว
ค่้ความอาจตกลงกันกะประเด็นขูอพิพาทโดยยื่นคำาแถลงร่วมกัน ต่อ
ศาลในกรณี เช่นว่านี้ ใหูกำาหนดประเด็นขูอพิพาทไปตามนั้ น แต่ถูา ศาลเห็น
ว่าคำาแถลงนั้ นไม่ถ้กตูองก็ใหูศาลมีอำานาจที่จะมีคำาสัง่ ยก คำาแถลงนั้ น แลูว
ดำาเนิ นการชี้สองสถานไปตาม มาตรา 183

มาตรา 183 ในวันชี้สองสถาน ใหูค่้ความมาศาล และใหูศาลตรวจ คำา


ค่้ความและคำาแถลงของค่้ความแลูวนำาขูออูางขูอเถียงที่ปรากฏใน คำาค่้ความ
และคำาแถลงของค่้ความเทียบกันด้ และสอบถามค่้ความ ทุกฝ่ ายถึงขูออูาง
ขูอเถียง และพยานหลักฐานที่จะยื่นต่อศาลว่า ฝ่ ายใดยอมรับหรือโตูแยูงขูอ
อูาง ขูอเถียงนั้ นอย่างไร ขูอเท็จจริงใด ที่ค่้ความยอมรับกันก็เป็ นอันยุติไป
ตามนั้ นส่วนขูอกฎหมายหรือ ขูอเท็จจริงที่ค่้ความฝ่ ายหนึ่ งยกขึ้นอูางแต่ค่้
ความฝ่ ายอื่นไม่รบ
ั และ เกี่ยวเนื่ องโดยตรงกับประเด็นขูอพิพาทตามคำาค่้
ความ ใหูศาลกำาหนด ไวูเป็ นประเด็นขูอพิพาทและกำาหนดใหูค่้ความฝ่ ายใด
นำาพยานหลักฐาน มาสืบในประเด็นขูอใดก่อนหรือหลังก็ไดู
ในการสอบถามค่้ความตามวรรคหนึ่ ง ค่้ความแต่ละฝ่ ายตูองตอบ
คำาถามที่ศาลถามเองหรือถามตามคำาขอของค่้ความฝ่ ายอื่น เกี่ยวกับ ขูอเท็จ
จริงที่ค่้ความฝ่ ายอื่นยกขึ้นเป็ นขูออูาง ขูอเถียง และพยาน หลักฐานต่าง ๆ
ที่ค่้ความจะยื่นต่อศาล ถูาค่้ความฝ่ ายใดไม่ตอบ คำาถามเกี่ยวกับขูอเท็จจริง
ใด หรือปฏิเสธขูอเท็จจริงใดโดยไม่มี เหตุผลอันสมควร ใหูถือว่ายอมรับขูอ
เท็จจริงนั้ นแลูว เวูนแต่ค่้ความ ฝ่ ายนั้ นไม่อย่้ในวิสัยที่จะตอบ หรือแสดง
เหตุผลแห่งการปฏิเสธไดูใน ขณะนั้ น
ค่้ ความมีสิทธิคัดคูานว่าประเด็นขูอพิพาทหรือหนูาที่นำาสืบที่ศาล
กำาหนดไวูน้ ั นไม่ถ้กตูองโดยแถลงดูวยวาจาต่อศาลในขณะนั้ นหรือ ยื่นคำารูอง
ต่อศาลภายในเจ็ดวันนั บแต่วันที่ศาลสัง่ กำาหนดประเด็น ขูอพิพาท หรือ
หนูาที่นำาสืบ ใหูศาลชี้ขาดคำาคัดคูานนั้ นก่อนวันสืบพยาน คำาชี้ขาดคำาคัดคูาน
ดังกล่าวใหูอย่้ภายใตูบังคับ มาตรา 226
มาตรา 183 ทวิ ในกรณี ท่ีค่้ความทุกฝ่ ายหรือฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่ งไม่มาศาล
ในวันชี้สองสถาน ใหูศาลทำาการชี้สองสถานโดยใหูถือว่าค่้ความที่ไม่มาศาลไดู
ทราบกระบวนพิจารณาในวันนั้ นแลูว
ค่้ความที่ไม่มาศาลนั้ นไม่มีสิทธิคัดคูานว่าประเด็นขูอพิพาทและหนูาที่
นำาสืบที่ศาลกำาหนดไวูน้ ั น ไม่ถ้กตูอง เวูนแต่เป็ นกรณี ท่ีไม่สามารถมาศาลไดู
ในวันชี้สองสถาน เพราะเหตุจำาเป็ นอันไม่อาจกูาวล่วงไดู หรือเป็ นการ
คัดคูานในเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบรูอยของประชาชน ในกรณี เช่นนี้ ใหู
นำา มาตรา 183 วรรคสาม มาใชูบังคับโดยอนุ โลม
มาตรา 184 ในกรณี ท่ีมีการชี้สองสถาน ใหูศาลกำาหนดวันสืบ พยาน
ซึ่งมีระยะเวลาไม่นูอยกว่าสิบวันนั บแต่วันชี้สองสถาน
ในกรณี ท่ีไม่มีการชี้สองสถาน ใหูศาลออกหมายกำาหนดวันสืบ พยาน
ส่งใหูแก่ค่้ความทราบล่วงหนูาไม่นูอยกว่าสิบวัน

มาตรา 200 ภายใตูบังคับ มาตรา 198 ทวิ และ มาตรา 198 ตรี ถูาค่้
ความฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่ งไม่มาศาลในวันสืบพยานและไม่ไดูรบ
ั อนุ ญาต จากศาล
ใหูเลื่อนคดีใหูถือว่าค่้ความฝ่ ายนั้ นขาดนั ดพิจารณา
ถูาค่้ความฝ่ ายใดไม่มาศาลในวันนั ดอื่นที่มิใช่วันสืบพยาน ใหูถือว่า ค่้
ความฝ่ ายนั้ นสละสิทธิการดำาเนิ นกระบวนพิจารณาของตนในนั ดนั้ น และ
ทราบกระบวนพิจารณาที่ศาลไดูดำาเนิ นไปในนั ดนั้ นดูวยแลูว

มาตรา 201 ถูาค่้ความทั้งสองฝ่ ายขาดนั ดพิจารณา ใหูศาลมี คำาสัง่


จำาหน่ายคดีน้ ั นเสียจากสารบบความ

มาตรา 202 ถูาโจทก์ขาดนั ดพิจารณา ใหูศาลมีคำาสัง่ คดีน้ ั นเสีย จาก


สารบบความ เวูนแต่จำาเลยจะไดูแจูงต่อศาลในวันสืบพยานขอใหู ดำาเนิ นการ
พิจารณาคดีต่อไป ก็ใหูศาลพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีน้ ั น ไปฝ่ ายเดียว

มาตรา 203 หูามมิใหูโจทก์อุทธรณ์คำาสัง่ จำาหน่ายคดีตาม มาตรา 201


และ มาตรา 202 แต่ภายใตูบังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ว่าดูวยอายุความ
คำาสัง่ เช่นว่านี้ ไม่ตัดสิทธิโจทก์ท่ีจะเสนอคำาฟู อง ของตนใหม่

มาตรา 204 ถูาจำาเลยขาดนั ดพิจารณา ใหูศาลพิจารณาและชี้ขาด


ตัดสินคดีน้ ั นไปฝ่ ายเดียว
มาตรา 206 ค่้ความฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่ งจะรูองต่อศาลใหูวินิจฉัยชี้ขาด คดี
ใหูตนเป็ นฝ่ ายชนะโดยอาศัยเหตุแต่เพียงว่าค่้ความอีกฝ่ ายหนึ่ ง ขาดนั ด
พิจารณานั้ นหาไดูไม่ใหูศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดี ใหูค่้ความที่มา ศาลเป็ นฝ่ าย
ชนะต่อเมื่อศาลเห็นว่าขูออูางของค่้ความเช่นว่านี้ มีม้ล และไม่ขัดต่อ
กฎหมาย ในการนี้ ศาลจะยกขึ้นอูางโดยลำาพังซึ่งขูอ กฎหมายอันเกี่ยวดูวย
ความสงบเรียบรูอยของประชาชนก็ไดู

You might also like